วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

เปรียบเทียบเสปค iPad Air (2019) Vs iPad Pro 10.5" (2017)

Apple ยกเลิกขาย iPad Pro 10.5" แล้ว เพราะมีตัวใหม่คือ iPad Pro 11" ออกมาแทน (แล้วก็แพงขึ้นตามระเบียบ) ส่วน iPad 9.7" ตัวเก่าที่เขียนด้วยดินสอ Apple Pencil ได้ ก็เปลี่ยนเสปคนิดหน่อยมาสิงร่าง iPad Pro 10.5" กลายเป็น iPad Air (2019) อย่างที่เห็น ทำให้ iPad 9.7" กับ iPad Air (2019) เสปคเข้าใกล้กันมากขึ้น รวมถึง Design ด้วย

บทความนี้จะทำการเปรียบเทียบ iPad Air (2019) กับ iPad Pro 10.5" (2017) ที่หายไป ว่าต่างกันอย่างไรบ้าง จะได้เห็นการทำการตลาดของ Apple ที่พยายามเพิ่ม Gap ระหว่าง iPad Air (2019) กับ iPad Pro 11" ให้มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนใครที่สนใจ iPad Pro 10.5" ก็ยังพอหาซื้อมือสองได้อยู่ครับ ราคาก็พอกันหรือถูกกว่า iPad Air (2019) ของใหม่เล็กน้อย (เทียบรุ่นต่อรุ่น) หรืออาจมีมือหนึ่งขายแบบยังไม่ได้แกะกล่องซึ่งเป็นของค้างสต็อกก็พอหาได้ในราคาที่ไม่แพงนัก (เมืองนอกมีรุ่น Refurbish ออกวางขายราคาถูกลงมาก ผมว่าคุ้มค่ามากถ้าจะซื้อ... ใครไปนอกน่าฝากซื้อครับ เพราะมันประกัน World-wide)  ถามว่าตอนนี้ซื้อเครื่องมือสอง หรือหิ้วจากนอก คุ้มค่าไหม ต้องลองเทียบเสปคดูกันครับ

ถ้าถามผมว่า อะไรที่ต่างกันแล้วเห็นผลชัดที่สุด ผมว่า มี 4 อย่างที่ iPad Pro 10.5" ให้มามากกว่า (ดีกว่า)

1. กล้องหลัง ต่างกันชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียด หรือเทคโนโลยีที่ iPad Pro 10.5" ให้มามากกว่า  แต่ก็ต้องแลกกับกล้องนูน ๆ ที่บางคนรับไม่ได้ครับ 

2. หน้าจอแสดงผลที่เป็นแบบ Promotion มีความถี่ 120 Hz ถ้าท่านไปลองดู review ใน youtube ท่านจะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจนว่า มันดีงามกว่าแบบรู้สึกกันได้ชัดเจนอยู่ ลองเปิดไฟล์ตัวอักษรแล้วเลื่อนขึ้นลงไปมา ก็จะเห็นครับ โดยเฉพาะสายเล่นเกมส์นี่เห็นแน่ ๆ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปอาจไม่มีผลเท่าไหร่

3. ไฟแฟลช ด้านหลังเครื่อง อันนี้สำคัญสำหรับคนชอบพก iPad ติดตัว แล้วใช้แทนกล้องถ่ายรูปเพราะจอใหญ่ดี (ผมเห็นบ่อย ๆ ในหมู่ผู้สูงวัยหน่อย) หรือใช้แทนไฟฉายแบบมือถือ (อันนี้ผมว่าอาจจะลำบากกว่า) ออปชันนี้ผมว่ามีดีกว่าไม่มี บางทีมือถือแบตใกล้หมด แบบตอนไปออกทริป หาที่ชาร์จไม่ได้ ก็อาจได้ใช้ iPad แทน 555+

4. ลำโพง 4 ตัว อันนี้เห็นผลชัดเจนครับ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ได้อรรถรสกว่ากันเยอะ 

ส่วนเรื่องความเร็วในการทำงานผมว่าพอ ๆ กันครับ ต่างกัน 15% ในการ Benchmark ใช้จริงในชีวิตประจำวันไม่ค่อยมีผลหรอกครับ ส่วน Ram มากน้อยกว่ากัน 1GB ผมว่ามีผลไม่เท่าไหร่ 

ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมว่าสูสีกัน หรือเท่า ๆ กันครับ ไม่ว่าจะน้ำหนัก ระยะเวลาใช้งาน การเชื่อมต่อ ไม่แตกต่าง จะมีต่างอีกอย่างก็เรื่อง ราคา ที่ถูกลง (ก็เล่นตัดฟีเจอร์ออก และใช้ตัวถังเดิม ก็ควรจะต้องถูกลง) 

สรุป Apple ก็ทำการตลาดได้ดีครับ รู้ว่าควรจะแบ่ง Segment ของกลุ่มตลาดอย่างไร จะตัดที่ตรงไหน ถึงจะทำให้มี Gap หรือช่องว่างเพียงพอสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ผมว่า iPad Air (2019) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งเลยครับ ผมแนะนำว่า ใครที่ไม่เคยใช้ แล้วอยากใช้ iPad โดยเฉพาะ ดินสอเขียนหน้าจอเนี่ย ซื้อรุ่น iPad Air (2019) ผมว่าน่าจะคุ้ม เพราะได้ลองแล้วถ้าชอบจริงจัง ได้ใช้งาน เป็นประโยชน์ มีงบ ก็ค่อยขายทิ้งไปซื้อตัว iPad Pro 11" ก็ได้ ราคาขายก็ตกไม่มาก เจ็บตัวน้อยสุดในตลาดละ ไม่น่าต้องกังวล แต่เสปคนี้ถ้าพอใจก็ใช้ได้ต่อไปอีกหลายปีครับ หายห่วง ของเค้าพิสูจน์แล้วว่าทนจริงจัง 555+



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น