วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562



เนื้อที่หายไปไหน ... วันดีคืนดีเสียบไดรฟ์ยูเอสบี (เก็บข้อมูล) (หรือชื่ออื่นที่นิยมเรียกกันหลากหลาย เช่น Mass Storage Device / Thumb Drive / Flash Drive / ...) ที่ไม่ได้ใช้มานาน ขนาด 16GB เพราะว่ามีหลายอัน เลยนาน ๆ จะได้ใช้ที

เกิดเหตุว่า เสียบคอมปกติ ใน Windows 10 จะก็อปข้อมูลมาใส่ อ้าว... ความจุหายไปไหน ทำไมเหลืออยู่แค่ 935 MB และเหลือที่ว่างแค่ 423 MB เอง ...อย่างแรกที่คิดคือ เอ๊ะหรือว่าโครงสร้างข้อมูลที่เก็บจะเสีย ...​ข้อมูลก็ไม่ได้สำคัญมาก จับ Format ใหม่เลยละกัน ก็กดคลิกขวาที่ Drive แล้วเลือก Format เป็นแบบ FAT32 เสร็จแล้วก็เฮ้ย ความจุก็เท่าเดิม 935MB ...เอ๊ะ หรือจะเสียจริง ๆ

เริ่มสืบสวน หลังจากตั้งสติแป๊บนึง นึกได้ เปิดดูจากโปรแกรม Disk Management (เป็นโปรแกรมที่ติดมากับ Windows ทุกเวอร์ชันครับ มีหน้าที่ไว้บริหารจัดการเกี่ยวกับพื้นที่ของฮาร์ดไดรฟ์และตัวเก็บข้อมูลทุกรูปแบบ สามารถสั่งให้ เพิ่ม ลบ Partition แบ่งไดรฟ์ใหม่ได้ ฟอร์แมตก็ได้) เผื่อจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างละเอียด วิธีเรียกใช้ก็ง่ายนิดเดียว พิมพ์คำว่า "Disk Management" เข้าไปในช่่องค้นหาของ Windows ก็จะเจออยู่ตัวเดียวคือ "Create and format  harddisk partitions" ก็คือตัวเดียวกัน ลองเปิดดูก็จะเห็นหน้าต่างจั่วหัวว่า Disk Management เป็นไงล่ะ ความฉลาดของ Windows 10 555+

สิ่งที่เจอ พอเปิดขึ้นมาสิ่งที่เห็นคือ อ้าว... ทำไมมันมี พื้นที่ Unallocated (คือยังไม่มีการกำหนดให้ใช้งาน) อยู่ตั้งเกือบ 15 GB ...เลยนึกขึ้นได้ว่า เราเคยใช้ไดรฟ์นี้ในการทำ Boot Loader สำหรับระบบอะไรซักอย่าง มันเลยฟอร์แมตให้เป็นแบบนั้น
(แต่ในกรณีอื่น ท่านอาจพบว่ามีหลาย Partition เกิดขึ้นก็ได้นะครับ ผม search เจอใน google ว่าบางทีอาจเกิดจากสาเหตุอื่นเช่นเปิดด้วยบางโปรแกรม บางเครื่องแล้วมันทำให้โครงสร้างไดรฟ์ของเราเปลี่ยนไป อาจไม่ได้พังทั้งหมด  เหมือนตัวอย่างนี้
https://superuser.com/questions/752874/16-gb-usb-flash-drive-capacity-down-to-938-mb)

สิ่งที่ต้องทำ เมื่อผมรู้สาเหตุแล้วก็ง่ายนิดเดียว ก็สั่งลบ Partition ที่มีอยู่ 9xx MB ทิ้งซะ มันก็จะกลายเป็นเนื้อที่ Unallocated ทั้งหมด 16 GB เสร็จแล้วก็เลือก Format หรือสร้าง New Drive ขึ้นมา โดยการคลิกขวาที่บริเวณพื้นที่ก็ได้ แล้วเลือกเมนูดังกล่าว ระบบก็จะถามว่าจะให้ Format แบบไหน ...หลายท่านอาจสงสัยว่า แต่ละ Format มันต่างกันอย่างไร (เอาเป็นว่าผมจะไปกล่าวในบทความถัด ๆ ไปละกันครับ แต่ถ้าไม่มีความรู้ก็ให้เลือก FAT32 ไว้ก่อนสำหรับ ​Windows มักจะใช้ได้เกือบทุกกรณี) เมื่อเลือกเสร็จ ฟอร์แมตเสร็จ ก็เป็นอันใช้งานได้ปกติ (เย้)

ปล.​ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...แก่แล้วขี้ลืม 555+
จะบอก...สอนให้หาข้อมูลปัญหา สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข ก็คิดว่าทุกท่านก็ Google กันอยู่ทุกวี่วันอยู่ละ ไม่น่าแปลกใจอะไร อิอิ

หมายเหตุ ถ้าท่านไม่แน่ใจว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี เมื่อเกิดปัญหากับพวก USB-Drive ที่ใช้เก็บข้อมูลเหล่านี้ ผมแนะนำว่า

1. อย่างแรกเลยคือ หาทาง Backup ข้อมูลไปเก็บไว้ที่อื่นก่อนเพื่อความปลอดภัย แล้วจะทำอะไรก็ตามใจเลยครับ จะได้สบายใจ

2. ถ้าท่านใช้มากกว่า 1 ระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) เช่น ใช้ทั้ง Unix, Linux, OSX, Windows ก็อยากให้ลองเอาไปเปิดในระบบปฏิบัติการเหล่านี้ก่อน ท่านอาจแบ่ง Partition หรือใช้ฟอร์แมตของบางระบบปฏิบัติการอยู่ เพราะแต่ละ OS ก็จะมีไฟล์ฟอร์แมตต่างกัน อาจไม่รู้จักข้าม OS (แค่ Windows ก็มีตั้งหลายฟอร์แมตแล้วครับ)

3. เกือบทุกระบบปฏิบัติการจะมีวิธีการซ่อมแซมโครงสร้างไฟล์ หรือข้อมูลที่เสียหาย ส่วนนี้ต้องลอง google ดูกันครับ แต่ละ OS ทำกันอย่างไร ไม่ยากครับ หาปุ่มกดให้เจอแค่นั้นเอง มันก็จะอยู่กับพวกโปรแกรม Disk Management ใน OS นั้น ๆ ครับ เช่น OSX จะต้องเปิดโปรแกรม Disk Utility แล้วไปเลือกปุ่ม First Aid เพื่อให้ระบบตรวจสอบและซ่อมแซมโครงสร้างและข้อมูลให้เรา ส่วนจะซ่อมสำเร็จไหมก็อีกเรื่องครับ

4. ถ้าซ่อมโครงสร้างและข้อมูลแล้วก็ยังไม่รอด ในไดรฟ์มีข้อมูลสำคัญมาก ไม่อยู่ในส่วนที่ Backup ไป (หาไม่เจอ) แต่คิดว่าอยู่ในไดรฟ์ จะ ฟอร์แมตทั้งหมดก็ไม่กล้า แนะนำให้หาโปรแกรม Disk Recovery ครับ มีมากมายหลายเจ้า ทั้งฟรีและเสียเงิน
(ผมไม่ได้ใช้นานจนแนะนำไม่ถูกแล้วครับว่าตัวไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร เพราะ Harddisk ปัจจุบันเป็น Solid State มันไม่ค่อยเสีย เพราะไม่มีส่วนที่เป็นกลไกแมคคานิก (พวกหมุน ๆ หรือแม่เหล็ก ที่อาจเกิดเหตุทำให้เสียได้โดยไม่คาดคิด) หรือผมเปลี่ยนเครื่องบ่อยเลยยังไม่เจอ ก็ไม่ทราบ แต่ไม่เจอน่ะดีละครับ ไม่อยากปวดหัว แต่จะว่าไป เจอก็ไม่กลัวเพราะข้อมูลสำคัญผมเอาขึ้น Cloud ไว้หมดแล้ว และ Backup ไว้ใน External Harddisk เป็นระยะ ๆ ซึ่งทุกท่านควรจะทำกันให้เป็นนิสัยนะครับ)

5. ถ้ายังไม่ได้อีกจริง ๆ แล้วข้อมูลสำคัญมากมายก่ายกอง ก็ลองส่งให้เพื่อนที่ฝีมือเซียน ๆ ที่ไว้ใจได้ลองช่วยดู หรือหมดหนทางจริง ๆ แล้วก็ลองส่งให้กับบริษัทที่รับจ้างกู้ข้อมูลครับ ถ้ายังไม่ได้อีก.... ทำใจสถานเดียวเลยครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น